ล้างแอร์

ปัญหาแอร์ไม่เย็นที่เราพบส่วนมากมักจะคิดกันว่าแอร์เสีย หรือน้ำยาแอร์หมด แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำงานของแอร์บ้านนั้นไม่ได้ต่างจากพัดลมมากนัก เพียงแค่สาเหตุหลักที่ทำให้แอร์ไม่เย็นมักเกิดจากฝุ่นที่สะสมตามจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระจายความเย็นของแอร์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เราสามารถแก้ไขเองได้ด้วยการล้างแอร์โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าช่างแอร์อีกต่อไป ก่อนอื่นที่จะเริ่มทำการล้างแอร์ ให้เอาเบรกเกอร์ลงเพื่อตัดวงจรไฟฟ้าก่อนที่จะทำการล้างแอร์ หลังจากนั้นจึงถอดแผ่น Filter แอร์ออกมาแล้วล้างด้วยน้ำก๊อกเบา ๆ จากนั้นนำไปผึ่งแดด คราวนี้เราก็มาจัดการถอดหน้ากากแอร์ออกมา จะเห็นแผงคอยล์เย็นอยู่ด้านในให้เอาน้ำมาสักครึ่งขันผสมกับน้ำยาล้างจานสักเล็กน้อย นำแปรงสีฟันที่ดัดโค้งงอแล้ว (อาจใช้ไฟรนแถว ๆ คอแปรงแล้วค่อยดัดเอาก็ได้ครับ) มาจุ่มน้ำที่ผสมแล้วมาแปรงจากบนลงล่างเท่านั้นที่บริเวณคอยล์เย็น ห้ามแปรงซ้ายขวาเพราะจะทำให้ครีบคอยล์พับได้แล้วลมไม่ออกก็จะทำให้แอร์ไม่เย็น ซึ่งการทำความสะอาดบริเวณนี้ต้องค่อนข้างระวังและใช้ความใจเย็นด้วย ไม่งั้นอาจจะโดนครีบ (Fin)...

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กลุ้มใจทุกครั้งที่ต้องล้างแอร์บ้าน จะนัดช่างมาล้างแอร์ก็ว่างไม่ตรงกัน จะลองล้างเองก็กลัวว่าจะทำแอร์พัง ไหนจะต้องมีค่าใช้จ่ายอีกมากมาย วันนี้เรามีวิธีง่าย ๆ ที่แค่คุณอ่านบทความนี้จบ เราเชื่อว่าคุณจะมีความมั่นใจในการล้างแอร์บ้านด้วยตัวเองแน่นอน ก่อนที่จะล้างแอร์บ้านสำคัญที่สุดคืออย่าลืมเอาเบรกเกอร์ลงเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของเราขณะที่ล้างแอร์บ้านอยู่ จากนั้นจึงถอดแผ่น Filter มาทำความสะอาดด้วยการล้างด้วยน้ำก๊อกเบา ๆ แล้วเอาไปผึ่งแดดให้แห้ง คราวนี้เราก็มาจัดการทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นกันครับ ขั้นแรกให้ถอดหน้ากากแอร์ออกมาก่อน จะเห็นแผงคอยล์เย็นอยู่ด้านใน ให้เตรียมน้ำผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อยไว้สักครึ่งขัน ใช้แปรงสีฟันเก่า ๆ ชุบน้ำที่ผสมแล้วมาปัดแผงคอยล์เย็น โดยแปรงที่เอามาใช้ต้องมีการดัดแปลงให้มีความโค้งงอสักนิดด้วยการเอาไฟแช็คลนแถว ๆ คอแปรงแล้วดัดให้งอพอเหมาะ...

เครื่องปรับอากาศที่ต้องใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน บางทีมันก็มีบ้างที่สภาพของการใช้งานเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไป เริ่มเสื่อมลง ฝุ่นผงหรือสิ่งสกปรกต่างๆก็เริ่มที่จะสะสม ถึงเวลาที่ต้องมาล้างเครื่องปรับอากาศกันแล้ว เมื่อเกิดสิ่งสกปรกสะสมหรือว่าเครื่องปรับอากาศที่บ้านเราเกิดทำงานแบบผิดปกติขึ้นมาต้องรีบทำการแก้ไขโดยด่วน เพราะนั่นมันอาจจะคือสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าคุณควรทำความสะอาดมันได้แล้ว ขั้นตอนการทำความสะอาดหรือว่าการล้างเครื่องปรับอากาศ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหน้าที่ของช่างผู้เชี่ยวชาญ หรือบางท่านพอมีความรู้ก็สามารถที่จะทำได้เองอย่างง่ายๆ จุดประสงค์ของการล้างก็เพื่อการทำความสะอาดให้เครื่องปรับอากาศกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่เหมือนเดิม     ข้อควรทำในการล้างเครื่องปรับอากาศ ลองเปิดเครื่อง เพื่อดูว่ามันสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือว่าเปิดแล้วลองสังเกตดูว่ามันมีข้อปกติใดบ้างที่จะแก้ไขได้อย่างถูกจุด บางทีสภาพการใช้งานและอาการผิดปกติต่างๆก็ช่วยให้เรารู้ถึงปัญหาและแก้ไขได้อย่างไม่เสียเวลา อุปกรณ์ที่เป็นไฟฟ้าต้องระมัดระวังมากไม่ให้มันถูกน้ำ เพราะว่าอาจจะเกิดอันตรายจากไฟรั่ว ไฟฟ้าช็อตได้ทันที เมื่อต้องล้างเครื่องปรับอากาศแต่ละครั้งต้องใช้น้ำเป็นตัวช่วย ซึ่งมันจะอันตรายมากเมื่อต้องทำการเกี่ยวข้องกับระบบไฟ อย่าลืมทำความสะอาดส่วนที่สกปรกที่สุด อย่างแผ่นกรองอากาศและท่อน้ำทิ้ง ถาดรองน้ำ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเย็นนั่นหมายความว่าอาจจะมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่มากมายทำให้เครื่องทำงานหนักมากไป หลังจากทำการล้างเครื่องปรับอากาศเรียบร้อยแล้ว เช็คสภาพให้ทุกอย่างเข้าที่และเรียบร้อยที่สุดก่อนที่จะเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศอีกครั้ง ขั้นตอนคร่าวๆเบื้องต้นที่ไม่ควรลืม ความถี่ในการล้างเครื่องปรับอากาศแต่ละครั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานมันมานานแค่ไหนแล้ว หรือว่ามันอาจจะสกปรกเร็วกว่าปกติก็สามารถทำการล้างได้เลยโดยที่ไม่ต้องให้ถึงรอบเวลาของมัน...

คุณผู้อ่านทุกคนรู้สึกหรือไม่ครับว่าแอร์บ้านที่คุณกำลังใช้งานอยู่นั้น รู้สึกเปิดนานมาก กว่าจะเย็น บางครั้งแทนที่จะได้รับลมเย็นหอมชื่นใจ กลับได้กลิ่นอับๆ ปนออกมาบ้าง สร้างความไม่สดชื่นให้แก่บ้านเอาเสียเลย วันนี้ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับการล้างแอร์บ้านด้วยตนเองมาฝากทุกๆ คนกันครับ ว่าแล้วก็ไปอ่านต่อกันได้เลย มาเริ่มต้นล้างแอร์บ้านกันดีกว่า เรามาเริ่มต้นล้างแอร์บ้านด้วยตนเองกันดีกว่าครับผม โดยมีขั้นตอน ดังนี้ ปิดเบรกเกอร์เพื่อตัดไฟฟ้า ถอดแผ่น Filter ออกมาล้าง โดยใช้น้ำธรรมดา แล้วผึ่งแดดให้แห้ง ล้างแผ่นคอยล์เย็น โดยถอดหน้ากากแอร์ออก แล้วใช้แปรงสีฟันที่ไม่ได้ใช้จุ่มน้ำแล้วทำการแปรงลงจากบนลงล่าง ห้ามแปรงขึ้นลงและห้ามแปรงซ้ายขวาเพราะจะทำให้ครีบ (FIN) พับลงและลมเย็นจะไม่ออก ถ้าแอร์ตันมากๆ อาจจะสามารถใช้น้ำแรงดันสูงช่วยฉีดก็ได้ แต่ต้องเตรียมอุปกรณ์กันน้ำส่วนต่างๆให้ดี โดยเฉพาะชุดวงจรควบคุมต่างๆ ส่วนการล้างคอยล์ร้อนก็มีขั้นตอนในการล้างคล้ายกับการล้างคอยล์เย็นเลยครับ เพียงเท่านี้แอร์บ้านของคุณผู้อ่านทุกคนก็จะสะอาดขึ้นมาในทันทีจากการล้างแอร์บ้านด้วยตนเอง เห็นไหมล่ะครับว่า...

แอร์ไม่เย็นถือว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่คนใช้แอร์อย่างเรา ๆ จะต้องพบกันเป็นประจำ หลายครั้งอาจทำให้อดคิดไม่ได้ว่าแอร์เสียหรือไม่ หรือว่าน้ำยาแอร์หมด ซึ่งปกติแล้วสาเหตุหลักที่ทำให้แอร์ไม่เย็นมักเกิดจากการที่ไม่ได้ล้างแอร์บ้านเป็นประจำ จึงทำให้เกิดฝุ่นสะสมจนอุดตัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราสามารถจัดการเองได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียกช่างมาให้เสียเวลาและค่าใช้จ่าย ก่อนทำการล้างแอร์บ้าน จะต้องตัดไฟด้วยการเอาเบรกเกอร์แอร์ลงก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเรา จากนั้นจึงเริ่มทำการล้างแอร์บ้านด้วยการถอดแผ่น Filter ซึ่งเป็นแหล่งสะสมฝุ่นด่านแรกออกมาแล้วล้างด้วยน้ำก๊อกเบา ๆ จากนั้นนำไปผึ่งแดด ระหว่างนั้นเราก็มาถอดหน้ากากแอร์ออกมา จะเป็นแผงคอยล์เย็นอยู่ด้านใน ตรงนี้ให้ใช้แปรงสีฟันที่ดัดงอแล้วมาจุ่มน้ำที่ผสมกับน้ำยาล้างจาน จากนั้นนำมาแปรงบริเวณคอยล์เย็น วิธีการแปรงที่ถูกต้องนั้นจะต้องแปรงจากบนลงล่างเท่านั้น ห้ามแปรงซ้ายขวาเนื่องจากอาจจะทำให้ครีบคอยล์พับซึ่งจะทำให้ลมไม่ออกเป็นสาเหตุให้แอร์ไม่เย็น ในขั้นตอนนี้จะต้องทำด้วยความระมัดระวังเพราะอาจถูกครีบบาดหลังมือเอาได้ ส่วนพัดลมกรงกระรอกที่อยู่ค่อนข้างลึกนั้น จะต้องแกะชิ้นส่วนอื่น ๆ...

แอร์ เมื่อใช้งานไปนานๆ ก็ย่อมมีความสกปรกเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่า แอร์จะทำการดูดอากาศในห้องกลับเข้าไปทำความเย็นแล้วปล่อยออกมา จึงทำให้มีเศษฝุ่นต่างๆ เข้าไปสะสมอยู่ภายในแอร์ วันนี้ผมจึงความรู้เกี่ยวกับการล้างแอร์บ้านมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ ว่าแล้วก็ไปอ่านกันได้เลย ล้างแอร์บ้านนั้นสำคัญไฉน             สิ่งของทุกชิ้นเมื่อใช้ไปนานๆ ก็ต้องมีการเสื่อถอยเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานก็จะต้องคอยดูแลรักษาให้สามารถเก็บของไปใช้ได้นานๆ แอร์ก็เป็นของอีกชิ้นที่จะต้องดูแล เพราะในการทำงานของแอร์แต่ละครั้ง จะมีสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นละออง เศษขี้ผงต่างๆ ไปสะสมอยู่บริเวณแผ่นกรองอากาศ ถ้าหากผู้ใช้งานไม่ทำการล้างแอร์บ้าน แผ่นกรองเหล่านี้ก็จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว และฝุ่นผงเหล่านี้ก็อาจจะหลุดลอดออกมากับลมเย็นที่เรารอคอยอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้...