ค่า BTU คงเป็นคำที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่กำลังตัดสินใจเลือกแอร์อยู่ ซึ่งค่า BTU นั้นนอกจากเป็นตัวบอกถึงขนาดของแอร์แล้ว หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่ายิ่ง BTU สูงยิ่งดี ซึ่งถือว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก แล้วข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ BTU นั้นคืออะไร ลองมาอ่านบทความนี้ต่อเลยครับ
BTU (British thermal unit) คือขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีหน่วยคือ 1 ตันความเย็น เท่ากับ 12000BTU/hr. ซึ่งในการเลือกขนาดของแอร์นั้นนอกจากดูค่า BTU แล้ว ยังต้องดูปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ลักษณะของห้องที่จะติดตั้งว่าโดดแดดหรือมีความร้อนจากภายนอกมากน้อยเพียงใด จำนวนและขนาดของหน้าต่าง วัสดุหลังคา ไปจนถึงจำนวนคนที่ใช้งานในห้องอีกด้วย ในการคำนวณหาค่าbtu-แอร์” target=”_blank”> BTU ของแอร์นั้นคิดได้จากสูตร BTU = พื้นที่ห้อง*ตัวแปรความร้อน ซึ่งตัวแปรมี 3 ระดับคือ 850 สำหรับห้องที่ไม่โดนแดด 900 สำหรับห้องที่มีความร้อนสูงมากในเวลากลางวัน และกรณีเพดานสูงกว่า 3 เมตร ให้บวกเพิ่มจากเดิมอีก 2 เท่าจากสูตร สาเหตุที่ต้องเลือก BTU ให้เหมาะสมกับห้องก็เพราะว่าหากเราเลือกแอร์ที่ BTU สูงเกิน คอมแอร์ก็จะตัดบ่อยทำให้ห้องมีความชื้นสูง เปลืองไฟและราคาแพง แต่ถ้าเลือกแอร์ที่ BTU ต่ำเกินก็จะทำให้คอมแอร์ทำงานตลอดเวลา เพราะแอร์ไม่เย็น ส่งผลให้แอร์เสียเร็วได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่าการเลือกแอร์มาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกแอร์ที่มีค่า BTU เหมาะสมกับรูปแบบและพื้นที่ในการใช้งาน เพราะนอกจาก BTU จะส่งผลในเรื่องการทำความเย็นและค่าไฟที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาในระยะยาวอีกด้วย