ก่อนการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ เชื่อว่าหลานคนต้องมีคำถามคาใจว่า ทำไมต้องเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสม เพราะอะไรกันนะ เราลองมาดูกันว่าเหตุผลที่ต้องเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมมีอะไรกันบ้าง
- BTU แอร์สูงไป คอมเพรสเซอร์ตัดการทำงานบ่อย เพราะทำความเย็นได้เร็วเกินไป ผลคือประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง เกิดความชื้นในห้องสูง ไม่สบายตัว ราคาแพงและสิ้นเปลื้องพลังงาน
- BTU แอร์ต่ำไป คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา สาเหตุจากไม่สามารถทำความเย็นของ ห้องได้ตามที่ตั้งไว้ ทำให้สิ้นเปลื้องพลังงานและเครื่องมีอายุการใช้งานน้อย
BTU ย่อมาจาก British Thermal Unit หมายถึง ขนาดของการทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศ ซึ่งหน่วยวัดจะมีผลต่อขนาดน้ำหนัก โดย 1 ตัน สามารถทำความเย็นได้ 12000 BTU/hr.สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือขนาดของห้อง มีแสงแดดเข้ามาไหม โดยปกติแล้ว BTU แอร์จะนำมาคำนวณร่วมกับอุณหภูมิความร้อนเฉลี่ยต่อชั่วโมง หากเป็นอุณหภูมิห้องทั่วไปไม่ร้อนมาก ค่าความร้อนประมาณ 700 BTU หากแดดส่องเยอะ ทำให้ความร้อนสูงขึ้น อาจนำค่าความร้อนที่ 900 BTUมาคำนวณ ตัวอย่างเช่น ห้องนอนปกติ ขนาด 25 ตร.ม. แดดไม่ส่อง คำนวณโดย ขนาดห้อง x ค่าความร้อน = 25 x 700 การเลือกBTU แอร์ที่เหมาะสม ควรเลือกขนาด 17,500 BTU เป็นต้น แต่หากยังสงสัย กับการคำนวณ ลองเปรียบเทียบกับตารางด้านล่างนี้ ซึ่งมีการคำนวณมาให้โดยประมาณ
ทั้งนี้ การเลือกซื้อจริง นอกจาก BTU แอร์แล้วอาจจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วยเช่น ยี่ห้อ แต่หากขนาดของห้องมีขนาดห้องใหญ่มาก อาจเลือกคำนวณโดยการแบ่งพื้นที่ห้อง และแยกติดตั้งเครื่องปรับอากาศแต่ละจุดเพิ่มเติมแทน การใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัด คือการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม ยิ่งอุณหภูมิสูง ยิ่งประหยัด อาจตั้งอุณหภูมิไว้ประมาณ 26-27 องศา ซึ่งอุณหภูมิประมาณนี้ สามารถนอนหลับได้สบายเลยทีเดียว